ปีืที่ 2 ฉบับที่ 6 (ธันวาคม 2552 ถึง กุมภาพันธ์ 2553 )

  • เรื่องราวของปกวารสารฅนสหกรณ์

มองผ่านรู (กุญแจ) สู่อนาคต (ที่สดใส)

ความหมายของภาพปก: การมองผ่านช่องกุญแจลงไปยังผู้คนในสถานะต่างๆ ที่อยู่อีกฟากฝั่งโดย

มีแสงสว่างสองไปยังผู้คนเหล่านั้น แสดงถึงการมองทะลุและการไขปัญหาต่างๆ ได้ด้วยการนำเรื่อง

คุณค่าสหกรณ์ อันเป็นเหมือนแสงสว่างที่ส่องทางในยามที่ชีวิตพบกับปัญหา โดยช่วยทุกคนให้มี

ความหวัง และได้พบกับชีวิตที่อยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน

ธรรมะประจำฉบับ

นัยอันลึกล้ำของคำว่า “ขอบคุณ”

ขอบคุณความไม่มี ที่ทำให้รู้วิธีลุกขึ้นสู้

ขอบคุณความยากจน ที่ทำให้เป็นคนมุมานะ

ขอบคุณความล้มเหลว ที่ทำให้เกิดความเชี่ยวชาญ

ขอบคุณความผิดพลาด ที่ทำให้ฉลาดยิ่งกว่าเดิม

ขอบคุณความริษยา ที่ทำให้กล้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่

ขอบคุณคำวิพากษ์วิจารณ์ ที่ทำให้ผลิบานอย่างไร้ข้อตำหนิ

ขอบคุณความไม่รู้ ที่ทำให้รู้จักครูชื่อประสบการณ์

ขอบคุณความผิดหวัง ที่ทำให้ตั้งสติเพื่อลุกขึ้นมาใหม่

ขอบคุณศัตรูที่แกร่งกล้า ที่ทำให้รู้ว่าเรายังไม่ใช่มืออาชีพ

ขอบคุณมหกรรมคอร์รัปชั่น ที่ทำให้เราอยากสร้างสรรค์การเมืองไทย

ขอบคุณความป่วยไข้ ที่ทำให้เราตั้งใจดูแลสุขภาพ

ขอบคุณความทุกข์ ที่ทำให้รู้ว่าความสุขมีค่าแค่ไหน

ขอบคุณความพลัดพราก ที่ทำให้เราสละจากความยึดติดถือมั่น

ขอบคุณเพลิงกิเลส ที่ทำให้เรามีเหตุอยากถึงพระนิพพาน

ขอบคุณความตาย ที่ทำให้ฉากสุดท้ายของชีวิตสมบูรณ์แบบ

ธรรมะของ...ท่าน ว.วชิรเมธี

เรื่องเด่นในเล่ม

สหกรณ์การเงินมักเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ เครดิตยูเนี่ยน สหกรณ์ออมทรัพย์และสินเชื่อ หรือธนาคาร

เพื่อการสหกรณ์ ซึ่ง การดำเนินงานของสหกรณ์การเงินไม่ได้ขับเคลื่อนโดยกำไรเท่านั้น แต่จะเป็นไป

เพื่อคุณค่าและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันอย่าง หลากหลายมากกว่าธนาคารที่เป็นเจ้าของโดยนักลงทุน

เพียงอย่างเดียว นอกจากนี้สหกรณ์การเงินยังมีวัตถุประสงค์ทางสังคมที่ให้ความ สำคัญกับการบริการและ

ตอบสนองต่อความต้องการของสมาชิกด้วย โดยทั่วไปแล้วสหกรณ์การเงินดำเนินงานในระดับการค้าปลีก

และในระดับเล็กกว่าธนาคารของนักลงทุน จึง ต้องกำหนดให้บัญชีเงินฝากของสมาชิกมี ความมั่นคงก่อน

ที่จะให้สินเชื่อ ซึ่งเป็นการ ทำให้สมาชิกได้เรียนรู้ในการประหยัด อดออม และจากการที่มีโครงสร้างของ

ต้นทุนตํ่ากว่าธนาคารแบบอื่นๆ สหกรณ์ การเงินจึงสามารถจ่ายอัตราดอกเบี้ยเงิน ฝากได้สูงกว่า และคิดอัตรา

ดอกเบี้ยเงิน กู้ที่ตํ่ากว่าธนาคารอื่นได้.....สว.สก

  • วิพากษ์เส้นทางงานวิจัย

วันพุธที่ 21 ตุลาคม 2552 สถาบันวิชาการด้านสหกรณ์ได้จัดการ ประชุม เพื่อวิพากษ์เส้นทางงานวิจัย

โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องกับการสหกรณ์เข้าร่วมให้คำวิพากษ์ในครั้งนี้ ซึ่ง

รศ.จุฑาทิพย์ ภัทราวาท ผู้อำนวยการสถาบันฯ ได้กล่าวชี้แจงวัตถุประสงค์ในการประชุม คือ เพื่อเปิดโอกาส

ให้มี การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวิจัยด้านสหกรณ์ เพื่อติดตามประเมิน ผลเกี่ยวกับ

งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และสำรวจความต้องการเกี่ยวกับงานวิจัยของหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง เนื่องจากสถาบันฯ

ได้ทำงานในชุดโครงการวิจัย “การขับเคลื่อนการพัฒนาการสหกรณ์ และการค้าที่เป็นธรรม” ซึ่งมีจุดมุ่งหมาย

ในระยะยาวที่จะนำไปสู่การ เปลี่ยนแปลงบริบทการดำเนินงานของ การสหกรณ์ไทย ไปสู่บริบทขององค์การ

ธุรกิจในมิติของการพัฒนาเศรษฐกิจฐาน สังคม (Social economy) ภายใต้ บริบท ปัจจัยสภาพแวดล้อม

ที่เป็นพลวัตโดยมีวัตถุประสงค์ในการนำชุดความรู้เรื่อง “การเชื่อมโยงคุณค่า” และการบริหารจัดการ

โซ่อุปทานมาต่อยอดและขยายผลในรูปของ การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมใน 3 กลุ่มงานวิจัย

รวมทั้งหมด 11 โครงการย่อย....สว.สก

  • ชวนกันคิดเรื่องการกำหนดให้สหกรณ์เป็นวาระแห่งชาติ

เช้าตรู่วันที่ 13 กรกฏาคมที่ผ่านมาพวกเรา ชาวสถาบันวิชาการด้านสหกรณ์ได้นัดรวมพลกันที่ หน้าอาคารวิจัยและพัฒนา ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน เพื่อมุ้งหน้าไปยังโรงแรมโรสการ์เด้น อำเภอสวนสามพราน จังหวัดนครปฐม ในระหว่างเดินทางผู้อำนวยการได้ทิ้งท้ายก่อนลงรถว่า "วันนี้ขอให้พวกเราทำหน้าที่ในฐานะ ทีมประสานงานกลาง ที่จะดูแลการประชุมให้ทุกคนมีความสะดวกสบายและมีความสุขในการทำงานร่วมกัน และที่สำคัญทุกคนจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของนักวิจัยที่จะมาถอดบทเรียนร่วมกัน" ... กมล

  • ชวนกันคิดเรื่องการกำหนดให้สหกรณ์เป็นวาระแห่งชาติ

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา สถาบันวิชาการด้านสหกรณ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เป็น

ตัวแทนจัดเวทีเสวนาเพื่อตั้งรับกับผลกระทบ จากการลงทุนอาเซียนของสหกรณ์ ซึ่งมีตัวแทนจาก

กรมส่งเสริมสหกรณ์ ผู้จัดการสหกรณ์ และ ผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่านเข้าร่วมการเสวนา โดยได้รับเกียรติ

จากปราชญ์ของแผ่นดิน ศ.ดร.ระพี สาคลิก เข้าร่วมเวทีเสวนาในครั้งนี้ด้วย

สือเนื่องจากการที่ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ระบบการค้าเสรีอาเซียนในปีหน้านี้ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า

มีความเคลื่อนไหวจากหลายฝ่้าย ทั้งที่เห็นดีและมีข้อกังวลต่อพันธกรณีต่างๆ ที่ไทยต้องรับมือ สถาบันฯ

ในฐานะที่ดำเนินการโครงการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องการขับเคลื่อนการพัฒนาการสหกรณ์และการค้าที่เป็นธรรม

จึงได้จัดเวทีเสวนานี้ขึ้น เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างภาครัฐ ภาควิชาการ และฝ่ายจัดการสหกรณ์เกี่ยว

กับประเด็นข้อสังเกต จากฝ่ายจัดการสหกรณ์ และมาตรการที่ต้องเตรียมตัวเพื่อรองรับสถานการณ์ที่เกิด

ขึ้น......สว.สก.

View:1872